หลวงพ่อพยุง ท่านเคยปรารภอยู่เสมอว่า ปญญํ สุขํ โหตุ บุคคลใดตื่นจากกิเลส บุคคลนั้นก็วิเศษประเสริฐสุข สิ้นทุกข์ภัย อายุขัยหรือก็มากล้นพ้นประมาณ ทั้งสามอย่างนี้สมนามว่า อรหํ สมมา สมพุทโธ คนไม่มีธรรม จะมีทุกข์หนัก คนทำธรรมทาน จะได้บุญมาก จงจำ
อยากรวย ให้ทำทาน อยากสวย ให้รักษาศีล อยากมีปัญญา ให้เจริญภาวนา
พุทธบริษัท เมื่ออ่านแล้วและฟังธรรมแล้ว จะต้องนำไปปฏิบัติจึงจะเกิดผล และรู้ซึ้งถึง สัจจธรรม ว่า มีคุณค่าต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน
การปฏิบัติสมาธิ
เป็นการชำระใจให้ผ่องใส ไร้มลทิน ด้วยการน้อมนำพระธรรม คำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้ามาขบคิดพิจารณาให้เดิมภูมิธรรม ภูมิปัญญารู้เท่าทันในกองธรรมสังขาร มองเห็นในสภาวธรรมที่เป็นจริง ซึ่งเป็นปัญญาธรรมในพระพุทธศาสนา ดังนั้นเมื่อมีเวลาและโอกาส ชาวพุทธทั้งหลาย จึงไม่ควรที่จะละเลย การฝึกจิตภาวนา ซึ่งพระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่า
การฝึกจิตของหลวงพ่อ
หลังจากสวดมนต์เรียบร้อยแล้ว ควรจะฝึกฝนจิตใจให้สงบ เพื่อความผาสุกของตัวเอง โดยการฝึกฝนสมาธิกรรมฐาน เพื่อจะได้มีความเจริญ ความแข็งแรง อายุยืน ปราศจากโรคภัยอันตรายทั้งมวล โดยการนั่งในท่าขัดสมาธิ ตัวตรง หน้าตรง เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวา ทับมือซ้าย หัวแม่มือชนกัน นั่งหลับตาตามสบาย ไม่ต้องเกร็งตัว เหมือนเวลาพักผ่อน สตรีจะนั่งพับเพียบแทนก็ได้ แต่ท่านั่งตัวตรงจะดีที่สุดแล้ว กำหนดลมหายใจ เข้า- ออก ด้วยคำว่า พุทโธ หายใจเข้าว่า พุท หายใจออว่า โธ ใช้เวลาฝึกระยะแรกให้ใช้เวลาเพียง 10-15 นาที เพราะกำลังใจยังอ่อนอยู่ นานเข้าค่อยเพิ่มเวลาไปเรื่อย ๆ ฝึกจนเป็นประจำทุกวัน การนั่งสมาธิไม่จำเป็นต้องปฏิบัติอย่างเคร่งเครียด เอาจริงเอาจังจนเกินไป หรือย่อหย่อนเกินไป ควรทำใจให้สบาย ๆ ปฏิบัติสม่ำเสมอ จะเวลาไหน เช้า-เย็น มืด-ค่ำ สุดแต่ความสะดวกของตนเอง ก่อนจะเลิกฝึกก็ควรแผ่เมตตา ให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยทุกครั้ง
มองคิดในแง่ดี
แม่ไปมีผัวใหม่ ก็เรื่องของเขาซิ ให้เอาส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรา ที่เขาอุ้มท้องเรามา เก้าเดือน เราตอบแทนได้คุ้มค่าหรือเปล่าล่ะ
บิดา – มารดา นั้น เป็นหลายอย่าง เป็นบุพการีแก่บุตร ธิดาด้วย เป็นพรหมของ บุตร ธิดา ด้วย เป็นเทวธรรมด้วย อุปถัมภ์ธรรมด้วย
บิดา-มารดา เป็นเนยยะบุคคล เป็นอรหันต์ของลูกสาว ลูกชาย อย่าข้ามสำหรับท่าน อย่าข้ามหัวท่าน ไหว้พระทั้งสององค์ของเราก่อน ก่อนไหว้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
พระพุทธเจ้าสอนไว้อย่างนั้น
สามีข้าใครอย่าแตะ
มีหญิงคนหนึ่งมาหาหลวงพ่อด้วยความกลัดกลุ้ม เป็นทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส เนื่องด้วยสามีแอบไปมีเมียน้อย ก็มากราบหลวงพ่อ แล้วเล่าให้หลวงพ่อฟัง หลวงพ่อพูดว่า
คนไทยนี่อะไร ๆ ก็ไม่เสียดายหรอกในโลกนี้ให้หมดนะ อามิสนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่ให้ไม่ได้
ผัวดิฉันน่ะ! ใครแตะไม่ได้นะ! เอาตายเชียวนะ! จะไปนิพพาน จะเอาผัวไปด้วย
แล้วท่านก็หัวเราะ.........
เขาไปนิพพานเขาเอาผัว เอาเมีย ไปด้วยที่ไหนกัน เขาเอาธรรมะไปต่างหากล่ะ
เกิดมาทำไม
เกิดตายเป็นตัวหลงตัวโมหะ ถ้าไม่พ้นเกิดไม่พ้นตาย แล้วจะเกิดมาทำไม เกิดก็เป็นทุกข์ ตายก็เป็นทุกข์ จะเอาอีกหรือ?
เกิดก็ไม่เที่ยง ตายก็ไม่เที่ยง แล้วเราจะมาเกิด จะมาตายทำไม กายนี้เขาทดสอบเราว่า
หลงเขาหรือเปล่า ถ้าหลงกายก็เกิดบ่อย ๆ ตายบ่อย ๆ เป็นทุกข์บ่อย ๆ นะ
ช่างเขาเถอะ
เวลาใครเขาว่าอะไรเรา เขาสบายใจก็ให้เขาว่าไปเถอะ เราไม่ยึดไม่ถือ ให้เขาว่าให้พออย่างนี้แล้ว กิเลสเราก็จะหมดสิ้นไป หากเราไปโต้เถียง เดี๋ยวมันไม่สบายใจ ให้อภัยอย่างนี้ บุญมาก
โอวาทธรรม
ขอท่านจงมีความสุขความเจริญ ธรรมะเปรียบเสมือนแสงสว่างอันโชติช่วง ส่องทางให้พวกเราชาวพุทธไปสู่ ความสันติสุข เหตุนี้ ท่านทั้งหลาย จงพึงปฏิบัติตนให้อยู่ในศีลห้า หมั่นเทิดทูนบิดา-มารดา และครูบาอาจารย์ อย่าลืมบุญคุณของท่าน ท่านเป็นบุคคลที่เราใกล้ชิดมากที่สุด ถ้าเราไม่เคารพบูชาและนับถือท่านแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ที่เราศัทธา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องบูชาต่อไป และห้ามด่าว่าหรือเบียดเบียน รังแกท่านผู้ให้กำเนิดของเราเป็นอันขาด ถ้ากระทำเช่นนั้น จะต้องตกนรกทั้งเป็น ทำการค้าไม่เจริญ ตำแหน่งหน้าที่การงานก็จะตกต่ำ จ้ะ
โสดาบันของทายก คือ ศีล
มาวัดก็เป็นโสดาบันเติมวัด เติมโบสถ์ เติมศาสนา พอออกจากวัด ก็เป็นบ้านกู ของกูหมด โสดาบันหายหมด วิ่งกลับมาวัดหมด โสดาบันมาอยู่วัดคืนเดียว วันเดียว พอกลับบ้านเป็น คน หมด
พิจารณาขันธ์
อินทรีย์ทั้ง หก นั้น อันได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราต้องสำรวม คือพิจารณาซึ่ง รูป ใ ห้เห็นเป็นของไม่งาม ทางพระกรรมฐาน จิตใฝ่ดี เสาะหาทางธรรม แต่มีอกุศลกรรม ตัวมารมาขวางกั้น ทางบุญใหญ่อีกนี้แหละหนอชีวิต เกิดมาก็มีกรรมติดตัวแล้ว เพราะเราเคยทำเอาไว้เองมากมาย จนจำไม่ไหว จำไม่ได้ ทั้งที่เจตนาก่อขึ้น หรือไม่เจตนาก็ดี แล้วแต่อารมณ์ ความรู้สึก แต่ผลที่สุดก็ลงอยู่ที่เรา ให้เป็น ทุกข์กาย ทุกข์ใจ นานาอาการเกิดขึ้น ถ้าไม่อยากทุกข์อีก ต้องไม่อยากเกิด ไม่อยากมีร่างกาย ไม่ติดขันธ์ห้า ต้องรักษาศีลห้าอีก ยึดพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ ไว้เป็นที่พึ่ง
พระไม่เสื่อม
เคยมีลูกศิษย์หลวงพ่อถาม ปัญหาเกี่ยวกับพระเครื่องหลวงพ่อว่า วัตถุมงคลหลวงพ่อที่แจกไปนาน ๆ พุทธคุณจะเสื่อมไหม? หลวงพ่อตอบว่า พระของท่านไม่เสื่อมหรอก นอกจากเราจะเสื่อมศัทธาจากพระเอง
คำคมหลวงพ่อ
- เป็นผู้เจริญต้องมีสติ นอนก็ทำ ยืนก็ทำ เดินก็ทำ เว้นแต่เผลอ พอเผลอนึกขึ้นได้ก็ทำอีก
- ทำดีบุญได้ถูกที่ ทำดีได้ถูกคน กุศลแรงนะจ๊ะ
- คนเรามีสิทธิ์ทำความดีทุกคน อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือเปล่า
- ผู้รับหมดกิเลส ผู้ถวายก็ต้องหมดกิเลสด้วยนะ จึงได้บุญมาก
- หมดโกรธแล้ว อยู่วัดดีนะลูก
- คนไหนขยัน คนนั้นแหละ เป็นลูก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
- คนไหนขี้เกียจ ขี้คร้าน เป็นลูกของกิเลส
- อยู่บ้านอย่าติดบ้าน อยู่วัดอย่าติดวัดนะ อยู่ถ้ำอย่าติดถ้ำนะ ติดที่ไหน ๆ เป็นกิเลสที่นั่น
- เวลาทำบุญ อย่าหวงบุญของตนเอง
- ฟังธรรมะไม่ใช่ฟังแล้วเททิ้งนะ ฟังธรรมต้องทำไปด้วยซิจ๊ะ
- เข้าป่าก็ให้เข้าป่าไปด้วยปัญญา เข้าป่าโง่ ๆ เข้าไปด้วยความโง่ ก็เป็นถูดง ไม่ใช่ธุดงค์
- ตายวันไหน ก็บอกวันนั้นจ๊ะ
- ธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ธรรมะของเรานะ
- เราต้องเจริญ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ได้ปัญญาเห็นพระอริยสัจ ก็จะสำเร็จ พระอรหันต์
- พระอรหันต์ที่บ้าน คือบิด-มารดา จึงต้องเคารพ และบูชามากที่สุด
- หนีจากทุกข์นี้ ไปสู่ทุกข์ใหม่
- พยายามทำจิตใจให้สบาย อะไรจะเกิด เราห้ามสิ่งนั้นไม่ได้